โรค CVS หรือ
Computer vision syndromeเกิดจาก
1.การใช้สายตาเพ่งมองคอมพิวเตอร์ในระยะใกล้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อตา และแก้วตาทำงานหนักขึ้น
2.การจ้องจอคอมฯ ทำให้ม่านตาเปิดกว้าง นํ้าตาจึงแห้งเพราะระเหยเร็วกว่าปกติ
3.เวลาใช้คอมฯ ควรกระพิบตาเรื่อยๆ เพื่อกระตุ้นการหลั่งนํ้าตาของต่อมนํ้าตาเพื่อให้ดวงตาชุ่มชื้น
4.การจ้องแสง หรือแสงสะท้อนจากคอมฯ อาจมีรังสีที่ทำให้ระคายเคืองต่อเหยื่อตาและกระจกตา
อาการเบื้องต้น
1.ตาแห้ง ปวดตา เคืองตา แสบตา คันตา ตาแดง ดวงตาเมื่อยล้า และรู้สึกว่ากล้ามเนื้อรอบๆ ดวงตาตึงเครียดมากเกินไป
2.ถ้ามองเห็นได้ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร เห็นภาพซ้อน เห็นสีผิด เพี้ยนจากปกติ หรือดวงตาโฟกัสความชัดได้ช้ากว่าปกติ
3.ปวดศีรษะ ปวดต้นคอ ปวดไหล่ ร้าวลึกไปจนถึงแผ่นหลัง เมื่อเอี้ยวตัวจะปวดลึก ๆ
(ข้อ 3 นี้ ข้าพเจ้าเป็นแล้ว เพราะต้องทำงานอยู่หน้าจอวันละไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมง ต้องรักษาด้วยยาสมุนไพร และกายภาพบำบัด หลังจากนั้น 3 เดือน อาการดีขึ้นมากแต่ยังไม่หายเป็นปกติ)
4.บางครั้งรู้สึกเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
วิธีป้องกัน
1.ควรตรวจสุขภาพดวงตาประจำทุกปี
2.พยายามปรับสิ่งแวดล้อมในห้องทำงาน เช่น ปรับแสงสว่างให้เพียงพอ ปรับแสงสะท้อนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพิ่มความชื้นในห้องทำงานด้วยการวางแก้วนํ้า หรือกระถางต้นไม้เล็กๆ เมื่อต้องทำงานในห้องปรับอากาศ
3.คอมพิวเตอร์ควรตั้งตรงกับระดับสายตา หรืออยู่ตํ่ากว่าระดับสายตาเล็กน้อยเวลาทำงานควรอยู่ในท่าท่าก้มคอเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
4.ใช้แว่นกรองแสง UV ถึงแม้จะไม่มีสายตาก็ใช้ได้ และเพิ่มขนาดตัวหนังสือหน้าจอให้ใหญ่ขึ้น
5.หยอดนํ้าตาเทียมก่อนลงมือทำงาน
6.กระพริบตาบ่อยๆ ประมาณ16-20 ครั้งต่อนาที เพื่อกระตุ้นการทำงานของต่อมนํ้าตา
7.ใช้หลัก 20-20-20 คือทุกๆ 20 นาทีควรพักสายตาจากคอมพิวเตอร์ 20 วินาที และมองสิ่งสวยงามสบายตาที่ห่างไกลออกไป 20 ฟุต โดยไม่ต้องเพ่งอาจมองต้นไม้สีเขียวให้สบายตา
8.ปรับเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ เปลี่ยนท่านั่ง,หมุนคอ,หมุนไหล่,หมุนเอว,หมุนเข่า,สะบัดข้อมือ,หมุนข้อ เท้า.บิดขี้เกียจ,เดินไปเดินมา,ออกกำลังกล้ามเนื้อข้อมือและข้อนิวด้วยท่า บริหารมือและนิ้วอย่างสมํ่าเสมอ เพื่อป้องกันโรคมือชา นิ้วล็อก
สรุปเป็นภาพ
ขอขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์