กรมแพทย์ชี้คนไทยป่วย ความดันสูง เพิ่มขึ้น พบบางคนเป็นแบบไม่รู้ตัว ปล่อยทิ้งไว้นานสุดเสี่ยง ทั้งอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคหัวใจและไต
แนะตรวจความดันปีละ 1 ครั้ง พร้อมหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ทุกวันที่ 17 พฤษภาคม ของทุกปี สมาพันธ์ความดันโลหิตสูงโลก ได้กำหนดให้เป็นวันความดันโลหิตสูงโลก
เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนเกิดความตื่นตัวในการป้องกันโรคดังกล่าว โดยองค์การอนามัยโลกเผยสถิติทั่วโลกมีผู้ที่มีความดันโลหิตสูงถึง 1,000 ล้านคน
ทำให้ความดันโลหิตสูงเป็น 1 ในสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของคนทั่วโลก สำหรับสถานการณ์ ในประเทศไทยจากข้อมูลสํานักนโยบายและยุทธศาสตร์
สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในปี พ.ศ. 2556 มีคนไทยเสียชีวิตจากความดันโลหิตสูง จํานวน 5,165 คน ซึ่งมีสถิติสูงกว่าเมื่อปี 2555 ที่มีจํานวน 3,684 คน
ดังนั้น หากประชาชนรู้จักวิธีการดูแลตนเองและหมั่นสำรวจความผิดปกติของร่างกายอยู่เสมอ จะช่วยป้องกันและลดความรุนแรงของโรคดังกล่าวได้ ซึ่งความดันโลหิตสูง
เกิดจากภาวะที่มีระดับความดันโลหิตสูงเรื้อรัง ซึ่งค่าความดันปกติในปัจจุบันถือเอาค่าตัวบนไม่เกิน 140 มิลลิเมตรปรอท และค่าตัวล่างไม่เกิน 90 มิลลิเมตรปรอท
และมีคนจำนวนมากไม่ทราบว่าตนเองมีภาวะนี้ เนื่องจากไม่ปรากฏอาการในช่วงแรก เมื่อปล่อยนานไปโดยไม่รับการรักษาแรงดันในหลอดเลือดที่สูงจะไปทำลายผนังหลอดเลือด
และอวัยวะที่สำคัญหลายระบบในร่างกายเป็นเหตุให้เกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคหัวใจ และโรคไตตามมา
จากความรุนแรงดังกล่าว สมาพันธ์ความดันโลหิตสูงโลก ได้กำหนดคำขวัญการรณรงค์ว่า Know Your Numbers และคำขวัญของกระทรวงสาธารณสุข
และสมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย คือ ท่านทราบระดับความดันโลหิตของท่านหรือไม่ เพื่อให้ประชาชนตื่นตัวเข้ารับการตรวจวัดความดันโลหิตของตนเองอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
ตามสถานบริการกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากการรู้ค่าความดันโลหิตจะทำให้รู้วิธีปฏิบัติตนในการป้องกันและควบคุมความดันโลหิตสูง อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าว
นพ.สุพรรณ กล่าวว่า สำหรับปัจจัยเสี่ยงการเกิดความดันโลหิตสูง คือ พฤติกรรมการใช้ชีวิตส่งผลให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการบริโภคอาหารที่ไม่ได้สัดส่วน การกินของหวาน มันและเค็มจัด
รับประทานผักและผลไม้ไม่เพียงพอ ภาวะอ้วน ขาดการออกกำลังกาย ดื่มแอลกอฮอล์มาก สูบบุหรี่และมีภาวะเครียด รวมทั้งอายุที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นได้
ดังนั้นการปฏิบัติตนเพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันความดันโลหิตสูง คือ ลดการบริโภคอาหารที่ผ่านกระบวนการ อาหารสำเร็จรูป อาหารหมักดอง อาหารกระป๋อง อาหารที่มีโซเดียมสูง
เช่น ขนมถุง ไส้กรอก แฮมเบอร์เกอร์ เป็นต้น ลดอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง เพิ่มการบริโภคผักและผลไม้ที่หวานน้อย เช่น พืชตระกูลถั่ว กล้วย เป็นต้น ลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
และงดการสูบบุหรี่ ไม่เครียด ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับครอบครัว เช่น ทำอาหารรับประทานเอง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ตรวจสุขภาพ เป็นประจำทุกปีเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง
สำหรับผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่แล้ว ต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่องและพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอตลอดจนวัดความดันโลหิตเป็นประจำพร้อมจดบันทึก
จะทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีและใช้ชีวิตประจำวันได้เช่นคนปกติ
ขอบคุฯ ที่มา ผู้จัดการออนไลน์